วันที่ 20 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา วาสนา นาน่วม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยถึงแถลงการณ์ของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (Thailand Mine Action Center: TMAC) ซึ่งออกมาแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ในแถลงการณ์ TMAC ระบุว่า มีการลักลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบใหม่ ในพื้นที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของประเทศไทย ส่งผลให้กำลังพลกองทัพไทยได้รับบาดเจ็บ 3 นาย หนึ่งในนั้นบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นสูญเสียอวัยวะและกลายเป็นผู้พิการถาวร
จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิด พบว่าทุ่นระเบิดที่ใช้คือชนิด PMN2 ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลรุ่นใหม่ ที่เพิ่งถูกนำมาวาง และไม่มีอยู่ในระบบยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยอย่างแน่นอน ทั้งนี้ ลักษณะการวางทุ่นมีลักษณะเป็น สนามทุ่นระเบิด กระจายตัวหลายจุดตลอดแนวชายแดนในฝั่งไทย ชี้ให้เห็นถึงเจตนาในการก่ออันตรายโดยตรงต่อกำลังพลและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ รวมถึงอาจกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนโดยรอบ
ศูนย์ TMAC แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมทั้งออกแถลงการณ์ประณามการกระทำนี้อย่างรุนแรง โดยเห็นว่าเป็นการละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาว่าด้วยการห้ามใช้ สะสม ผลิต โอน และทำลายทุ่นระเบิดสังหารบุคคล (Ottawa Convention) ซึ่งทั้งไทยและกัมพูชาเป็นภาคีร่วมกัน โดยทั้งสองประเทศเคยให้คำมั่นว่าจะปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด รวมถึงภารกิจสำคัญในการกู้และทำลายทุ่นระเบิดเพื่อความปลอดภัยของประชาชน
TMAC เรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน โปร่งใส และมีความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยควรดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงให้รอบด้าน และลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งกำหนดมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีการเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาหยุดการขัดขวางภารกิจเก็บกู้ทุ่นระเบิดของไทยตามแนวชายแดน และให้ความร่วมมืออย่างจริงจังในการดำเนินภารกิจด้านมนุษยธรรม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้แก่ประชาชนของทั้งสองประเทศ รวมถึงเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบร่วมกันในฐานะรัฐภาคีของอนุสัญญาออตตาวา ซึ่งมีเป้าหมายร่วมกันในการลดความสูญเสียจากอาวุธที่ส่งผลกระทบต่อพลเรือนไร้ความผิด
